วันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

เหตุเกิดเมื่อน้ำตาลในเลือดสูง ตอนที่ 2

     คราวนี้ไปตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอีกรอบ ขั้นตอนทุกอย่างเหมือนคราวที่ผ่านมา  ราวนี้ระดับน้ำตาลลดลง อิอิ ใจชื่นขึ้นมา  แต่ปรากฏว่า พยาบาลทำผิดแผนที่คุณหมอวางไว้  คราวนี้วามจริงแล้วคุณหมอเขาจะให้ตรวจน้ำตาลในตอนเช้าตอนที่ยังไม่กินไรก่อน  แล้วไปกินข้าวรออีกสองชั่วโมงแล้วจะตรวจระดับน้ำตาลว่าเป็นยังไง  คุณหมอบอกว่าการตรวจที่ทำไปยังยืนยันไม่ได้ว่าเป็นหรือไม่เป็นเบาหวาน  เฮ้อ ... เซ็งเลยเรา  คราวหน้าต้องตรวจใหม่อีกรอบ
ผลตรวจ
Date : 12/2/53

Weight :
: OGTT
FBS 71
1 hr 144
2 hr 153
3 hr 68

คุมอาหาร

     ตอนนี้อยู่ในสภาวะต้องควบคุมอาหาร  ใครนะช่างบอกเล่าเก้าสิบกันได้ว่า ถ้าท้องนะอยากกินไรกินเลยกินให้เต็มที่  มันช่างไม่จริงสำหรับเราเลยอ่ะ  ตอนนี้จะกินไรทีต้องมานั่งพิจารณาอาหาร คำนวณแคลอรี่ คำนวณปริมาณน้ำตาล  ทำไมเรื่องมันช่างเศร้าขนาดนี้
     มื้อเช้า  ส่วนใหญ่จะเป็นข้าวราดแกงที่โรงเรียน  กับข้าวสองอย่าง อาจมีไข่ดาวเพิ่มเป็นบางวัน  ข้าวสวยประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ   (ไม่อิ่มเลยขอบอก)
     จากนั้นรอให้ได้ประมาณชั่วโมงครึ่งถึงสองชั่วโมงถึงจะกินนม ระหว่างนั้นนะหิวมากๆๆๆ
     มื้อเที่ยง  เพิ่งพาอาหารที่โรงเรียนเหมือนเดิม  จะเป็นเมนูก๋วยเตี๋ยว  เส้นนิดหน่อยผักเยอะๆๆ หมูมากๆ ไม่ใส่หอมเจียว ไม่ใส่ผงชูรส ไม่ใส่พริกไทย  ไม่ใส่ซอส น้ำคลุกคลิ๊ก หรือแห้ง (แบบว่าไม่อร่อยอ่ะ แต่ต้องทน)
     โรงเรียนเลิกจะหิวมาก ต้องตุนพลังงานเพราะสอนพิเศษอีกกว่าจะเลิกก้อเกือบสองทุ่ม  จะกินเป็นผลไม้หรือนม  ช่วงแรกๆๆ นะไม่กล้ากินผลไม้เยอะจะกินประมาณ 2 -3 ชิ้นแล้วใช้วิธีเคี้ยวให้ละเอียดแล้วอมสักพักค่อยกลืนไม่งั้นไม่อยู่ท้อง  ตอนนี้กินเยอะขึ้นแต่ใช้วิธีกินช้า ๆ
     มื้อเย็น   ทีนี้ทำเองจ้า  จะมีอยู่สองเมนูที่ทำ คือ ข้าวต้ม  จะมีข้าวสวยประมาณหนึ่งช้อนโต๊ะ ผักกาดขาวซอยละเอียด ปลาทู 1 ตัว  หมุอีกนิดหน่อย  ต้มให้ผักเละ อีกเมนูคือ สุกี้  ส่วนผสมจะเป็น  ผักกาดขาว ปลา หมูนิดนึง  วุ้นเส้นนิดหน่อย ไม่ต้องคำนึงถึงความอร่อย คำนึงถึงโภชนาการพอ 
     กินแบบนี้ทุกวันไม่รุว่าจะคุมน้ำตาลได้ผลไหม

วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ภาวะเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์

     มานั่งวิเคราะห์ตัวเองว่าทำเกิดภาวะเบาหวานระหว่างตัวเองได้  อาจเป็นเพราะ
1.คนในครอบครัวเป็นเบาหวาน  เพราะแม่เป็นเบาหวานอ่ะ
2. ทานของหวานๆ มากเกินไป .ในช่วงที่ผ่านเล่นทานนมเปรี้ยววันล่ะ 2 ขวด  ซึ่งนมเปรี้ยวมีน้ำตาลสูง  นี่ยังไม่รวมนมสำหรับคนที่ตั้งครรภ์โดยเฉพาะอีกนะ  ชอบกินชาไข่มุกแทบทุกวัน  และก่อนที่จะไปตรวจอบรมบ่อย อาหารว่างระหว่างอบรมจะเป็นพวกเบเกอรี่กับโอวัลติน  และเบเกอรี่กับน้ำหวาน  แถมยังไปกินไอศครีมบุพเฟ่ต์กินทีสามสี่ถ้วย  ของหวาน ๆ มันไปกระตุ้นให้เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ได้ค่ะ

3. ทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตเยอะ  ข้าวมื้อหลักทั้งสามมื้อจะกินแบบว่าสุดๆไปเลย  ยังไม่รวมขนมอื่นๆอีก ยิ่งช่วงกลางวัน  นักเรียนจะมีกิจกรรมตลาดนัดหัดขายจะไปอุดหนุนแทบทุกร้าน
      ลักษณะของคนที่เป็นเบาหวานตอนตั้งครรภ์จากประสบการณ์ตัวเองนะคะ

1.หิวบ่อยมาก มากกว่าคนท้องปกติค่ะ พอทานอาหารเสร็จเอาแบบอิ่มเต็มพิกัดเลยนะคะประมาณ 1 ช.ม.ได้หิวอีกแล้วค่ะไม่ใช่หิวธรรมดาด้วยนะคะแต่หิวมากๆ  หรือตื่นเช้ามาเนี่ยจะหิวเลยทันที  ต้องรีบกินอ่ะที่บ้านจะรู้เลยว่าเช้ามาต้องเตรียมของกินไว้ก่อน
2.ฉี่บ่อย บ่อยจริงๆ ค่ะบ่อยมาก ๆ



เหตุเกิดเมื่อน้ำตาลในเลือดสูง ตอนที่ 1

     วันนี้คุณหมอให้งดน้ำและอาหารหลังเที่ยงคืน เพื่อตรวจค่าน้ำตาลในเส้นเลือดแล้วเช้ามาก็มาเจาะเลือดตรวจก่อน 1 ครั้ง จากนั้นทานน้ำตาล 100 กรัมแล้วเจาะเลือดตรวจอีก 3 ครั้งทุก 1 ช.ม. ระหว่างนั้นให้กินน้ำเยอะ ๆ ผลปรากฏว่า เป็นภาวะเบาหวานแบบที่ 1 แต่ยังไม่ร้ายแรง คุณหมอจะให้ลองควบคุมอาหารดูก่อนแล้วนัดตรวจอีกที เพื่อจะดูว่าสามารถควบคุมน้ำตาลเองได้ไหม ถ้าไม่ได้คงต้องฉีดอินซุลิน ใจนี้แป๋ววววววววววววว ... ไปเลยอ่ะ  แถมคุณหมอยังบอกว่าหมอให้น้ำหนักขึ้นได้แค่กิโลเดียวนะ เราก้อเลยบอกว่า ถ้าเรากินน้อยมันไม่อิ่ม มื้อหนึ่งเราจะต้องข้าวหนึ่งจาน ผลไม้และนมอีกหนึ่งกล่อง แต่ขนมจุกจิกเราไม่กินเลย ถ้าไม่กินตามนี้นะจะอยู่ไม่ถึงมื้อต่อไป คุณหมอหัวเราะใหญ่เลย บอกว่าไม่กลัวเพื่อน ๆ จะจำไม่ได้เหรอ แบบนี้จะลงที่แม่นะไม่ใช่ลูก
      ถ้าคุณแม่เป็นเบาหวาน ผลเสียจะตกอยู่ที่ลูก ตอนเขาเกิดมามาเขาจะตัวเหลือง หรือเขาอาจจะโดนฉีดยาเพื่อควบคุมน้ำตาลตั้งแต่เด็ก เพราะร่างกายเขาเคยได้รับน้ำตาลมาตลอด เขาจะไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลเองได้
Date : 31/1/53

Weight :
: OGTT
FBS 72
1 hr 201
2 hr 180
3 hr 68
GDMA1 diet
Conlap 14/2/53 FBS+ 2 hr

แม่หมูเข้าสู่สัปดาห์ที่ 24

     ไปตรวจตามนัดปกติ  ช่วงนี้คุณหมอยังนัดตรวจเดือนครั้ง  ก้อคิดว่าคงไม่มีไรทำตัวตามสบายเรื่อยๆ อยากกินไรกินตลอด  ไม่สนใจเลยว่าน้ำหนักจะขึ้นมาแค่ไหนจนคุณหมอมีแซวว่าน้ำหนักขึ้นเรื่อย ๆ เลยนะ  เราก้อได้แต่ยิ้ม  ไม่รุว่าเกิดอะไรคุณหมอเขาให้ตรวจน้ำตาล  ที่นี้สิงานเข้า.... คุณหมอเขาให้กินน้ำตาล 100 ml  ไปขวดนึงแล้วตรวจระดับน้ำตาลในกระแสเลือดผลปรากฏว่าน้ำตาลสูงถึง 240  โอโห... คุณหมอเลยบอกว่าอาทิตย์หน้าจะให้งดน้ำงดอาหารแล้วมาตรวจอีกครั้งหนึ่ง  เฮ้อ...เซ้งเลย อาจเจอภาวะเบาหวานคุกคาม
Date : 24/01/53

Weight : 54.5
Blood Pressure : 110/70
U.A. : Protein + Sugar = Neg
Vaginal Dish : -
Edema : -
Fetal Movement : +
Other : 23 cm
 Fundal Ht (cm) : 1/4 > 0
FHS : +
Position : -
Engagement : Gtt
Gestational age : 24+
Treatment : yerli-6
Note : Caltrat






วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

แม่หมูเข้าสู่สัปดาห์ที่ 20

     ช่วงนี้สบายๆ กับการไปตรวจคิดว่าไม่น่าจะอะไรแล้วมั้ง ไม่ได้ท้องอ่อนแล้วนิ ตรวจคราวนี้คุณหมออัลตราซาวน์ดูเจ้าตัวเล็กว่ามีอวัยวะอะไรครบไหม  เห็นแล้วรู้สึกดีมากๆอ่ะ แทบไม่น่าเชื่อว่ามีคนอีกหนึ่งคนอยู่ในตัวเรา  ได้เป็นไฟล์วิดีโอมาด้วยเดียวยังไงจะพยายามเอาลงนะ  เจ้าตัวเล็กเอามือปิดหน้าปิดตา กำมือแน่นเลยไม่รุว่าตื่นเต้นไร แล้วก้อหนีบซะจนไม่แน่ใจว่าเป็น หญิงหรือชาย คุณหมอบอกว่าอาจจะเป็นหญิงนะแต่ประมาณ 50%  เอ... แล้วอีก 50%  ก้อเป็นชายอ่ะสิ  เง็งเลยเรา
บันทึกการตรวจ
Date : 27/12/52
Weight : 52
Blood Pressure : 120/80
U.A. : Protein + Sugar = Neg
Vaginal Dish : Bw 2 kg
Edema : -
Fetal Movement : +
Other : 17 cm
Fundal Ht (cm) : 0
FHS : +
Position : -
Engagement : -
Gestational age : 20
Treatment : yerli-6
Note : Caltrat

แม่หมูเข้าสู่สัปดาห์ที่ 16

       เริ่มกังวลเรื่องผลเลือด กลัวผลเลือดของพี่ปอนด์จะเป็นพาหนะธารัสซีเมียเหมือนเรา พยายามเร่งวันเร่งคืนให้ถึงวันนัด ทนรอไม่ไหวโทรไปถามครั้งแรกเขาผลยังไม่ออกต้องรอไปอีก เลยต้องได้แต่ รอ รอ รอ ช่วงนี้เลยกิน ๆๆๆๆๆๆ เพื่อให้ตัวเล็กจะได้ตัวโต เวลาเขาจะทำไรกับตัวเล็กจะได้คิดมาก ลองโทรไปถามอีกรอบคราวนี้ผลออกแล้ว ใจเสียเลยพยาบาลบอกว่าพี่ปอนด์เป็นพาหนะธารัสซีเมีย แต่พยาบาลเขาก้อบอกว่าอย่าเพิ่งคิดมากให้รอฟังคุณหมอวันนัดจะได้รายละเอียดกว่านี้ เขาบอกอะไรมากไม่ได้ แต่ก้ออดที่จะคิดมากไม่ได้ นอนร้องไห้ กลัวที่จะต้องสูญเสีย

      วันที่ 22 พฤศจิกายน 2552 เป็นวันนัดที่รอคอยมาก แต่เหมือนฟ้าจะแกล้งต้องรอนานมากกว่าจะได้เจอคุณหมอ ไม่เหมือนทุกครั้ง ใจจดใจจ่อกับนาฬิการอเมื่อไหร่เขาจะเรียก พอเขาเรียก รีบเข้าไปเลยใจตุ่มๆต่อมๆ ว่าคุณหมอจะยอกว่าไง พอคุณหมอบอกว่าคุณพ่อเป็นพาหนะเหมือนกัน แต่ไม่มีอะไร เป็นพาหนะชนิดที่ไม่แสดงอาการอะไร อย่างเก่งเขาก้อจะเป็นพาหนะเท่านั้น โอ้ย... ตอนนั้นนะเหมือนใครยกเอาก้อนหินออกจากอกเลย
     บันทึกการตรวจ
Date : 22/11/52

Weight : 50
Blood Pressure : 110/80
U.A. : Protein + Sugar = Neg
Vaginal Dish : Bw 3 kg
Edema : -
Fetal Movement : +
Other : 11 cm
Fundal Ht (cm) : 2/3
FHS : +
Position : -
Engagement : -
Gestational age : 15+
Treatment : yerli-6
Note : TT2

แม่หมูเข้าสู่สัปดาห์ที่ 12

     ช่วงนี้ยังมีอาการง่วงแบบสุด ๆ อยู่เหมือนเดิม เพิ่มมาอีกอย่างคือความขี้เกียจ ไม่มีอาการอย่างอื่นเข้ามาเลย ไม่เห็นเหมือนในละครทีวีเลยอ่ะ ไม่มีเวียนหัว อาเจียนโอ๊กอ๊ากเลยอ่ะ เออ!!! เกือบเป็นลมอยู่ครั้งหนึ่งก้อตอนที่ไปร่วมพิธีถวายพวงมาลา วันที่ 23 ตุลาคม 2552 ใส่ชุดปกติขาว อาการอบอ้าว เหมือนฝนจะตกแต่ไม่ตก ใจมันหวิวๆ หายใจไม่ออกเลยรีบออกจากแถวมาก่อน
      วันที่ 25 ตุลาคม 2552 หมอนัดมาฟังผลเลือด หมอบอกว่า ผลเลือดทุกอย่างก้อดีใช้ได้ แต่.... พอแต่แค่นั้นใจแป่ววว เลย กลับกลายเป็นว่าเราเป็นพาหนะธารัสซีเมีย ชนิด E ตอนนั้นไม่รุเลยว่าเป็นไง ร้ายแรงแค่ไหน แต่รุอย่างหนึ่งเหมือนกับหัวใจมันจะหยุดเต้นได้ในตอนนั้น แต่หมอก้อบอกว่าไม่ต้องกังวลมากต้องลองตรวจของคุณพ่อก่อนว่าเป็นยังไง ถ้าคุณพ่อไม่เป็นก้อไม่เป็นไร
ผลเลือด

VDRL : NR
Anti HIV : neg
HBsAg : neg
HBsAb : -
Hb : 13.0
Hct : 39
Blood gr : + , O
Other : OF 40.6 (+) A2 25.6 E ->+ PCR - ng (E-lrait) fuleella + 1 mmene


ไม่อยากบอกว่า ไม่แน่ใจเท่าไหรว่าเขียนตามหมอถูกไหม แต่เขียนเท่าที่แกะตัวหนังสือของหมอได้อ่ะนะ


ฝากท้องครั้งแรก

     ด้วยความที่เป็นคนกลัวเข็มมาก  ก้อเลยกังวลกับการที่ต้องไปหาหมอเพื่อฝากท้องครั้งแรก เพราะเท่าที่รู้ว่าจะต้องเจาะเลือด ฉีดอีกหลายอย่างกลัวเจ็บก้อกลัว แต่ไม่รุทำไงในเมื่อมีอีกชีวิตหนึ่งที่อยู่ในตัวเราที่เราต้องดูแล  เลยคิดว่าช่างเหอะมันจะเจ็บสักแค่ไหนเชียว  
      อย่างที่บอกตั้งแต่แรกว่า  ครั้งแรกอยากไปคลอดที่ศรีพัฒน์  เลยไปฝากท้องที่แรก คือ สถานพยาบาลพิเศษศูนย์ศรีพัฒน์  โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่  วันที่ 26 กันยายน 2552
พอไปถึงเขาก้อให้ทำทะเบียนประวัติต่าง ๆของทั้งคุณพ่อและคุณแม่  ตรวจปัสสาวะ  วัดความดัน  ชั่งน้ำหนัก พยาบาลเขาจะถามว่าก่อนท้องน้ำหนักของเราเท่าไหร่  ของเราอ่ะถ้าน้ำหนักปกติจะอยู่ราว 49 - 50 กิโลกรัม แต่ว่าบังเอิญก่อนท้องอยู่ในภาวะลดความอ้วน  น้ำหนักก่อนท้องเลยอยู่ที่ 47 กิโลกรัม (เฮ้อ !! ยิ่งเป็นคนที่นำหนักขึ้นเร็วด้วยสิ รุเลยว่าต้องโดนติงเรื่องน้ำหนักขึ้นเร็วแน่ๆ ) แล้วรอพบคุณหมอ
 ซึ่งเขาก้อจะถามว่าเคยฝากท้องที่ไหนหรือยัง  เคยตรวจเลือดหรือยัง มีโรคประจำตัวอะไรไหม  เคยมีประวัติการแท้งไหม  ครอบครัวมีใครเป็นโรคเบาหวานไหม  จะถามข้อมูลสุขภาพของเราค่อนข้างละเอียดอ่ะ  และสิ่งสำคัญคือ วันที่ประจำเดือนมาตรั้งสุดท้ายเมื่อไหร่  เพราะเขาจะได้คำนวณอายุครรภ์และกำหนดคลอดของเราได้   ของเราอ่ะประจำเดือนครั้งสุดท้ายคือ  วันที่ 6 - 8  สิงหาคม 2553หมอบอกว่าตอนนี้อายุครรภ์ประมาณ 7 สัปดาห์ กำหนดคลอดประมาณวันที่ 13 พฤษกภาคม 2553 แล้วคุณหมอจะให้คำแนะนำในเรื่องอื่น ๆ ค่อนข้างละเอียด  จากนั้นก้อให้ตรวจเลือดของคุณแม่ก่อนถ้ามีส่วนไหนที่ผิดปกติถึงจะตรวจของคุณพ่อเพื่อจะได้ประหยัด (อิอิ คุณหมอบอกช่วยกันประหยัดเงิน) 
      แต่ว่าต้องเปลี่ยนที่ฝากท้องเป็นที่ใหม่เป็นกุลพัฒน์คลินิก  ครั้งแรกที่ไปติดต่อยังไม่ได้พบคุณหมอเลยอ่ะ  ต้องจองคิวไว้ก่อน วันที่ 10 ตุลาคม 2552 ไปที่กุลพัฒน์คลิกนิกอีกรอบ ออกบ้านตั้งแต่หกโมงเช้า ข้าวเช้าก้อไม่ทันได้กิน รอๆๆ และก้อหิวมากๆๆไม่ได้ติดขนมหรืออะไรไปกินด้วย เมื่อไหร่ก้อไม่เรียกซักทีคิวที่หกอะไมช้าขนาดนี้ จนทนไม่หิวไม่ไหวถามพยาบาลว่าไปกินข้าวก่อนได้ไหม ไม่มีปัญหาไรใช่ป่าว เขาบอกไปกินก่อนเลย จะได้เจอหมอประมาณเที่ยงกว่า ถึงเวลาเจอคุณหมอเป็นผู้หญิงยังวัยรุ่นอยู่เลย หมอบอกว่าตอนนี้อายุครรภ์ประมาณ 9 สัปดาห์แล้ว แล้วเจาะเลือดหรือยัง เราบอกเจาะแล้วที่ศรีพัฒน์ ตรวจภายในหรือยัง เราบอกว่ายังเขาเลยจัดการตรวจภายในกับมะเร็งปากมดลูก แต่ตรวจตราวนี้ดีอ่ะได้อัลตารซาวน์เห็นตัวลูกด้วยเป็นครั้งแรกที่เห็นเค้า หัวโตแต่ตัวเล็ก ความรู้สึกที่เห็นเค้าครั้งแรกมันบอกไม่ถูกอ่ะ ดีใจมาก ๆ ตรวจคราวหน้าคุณเลยจัดการนัดให้ไปตรวจที่ศรีพัฒน์เพราะจะได้ดูผลเลือดด้วย
     

วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

แสวงหาที่ฝากท้อง

     หลังจากที่รู้แน่ ๆว่าท้อง 100 %  ทีนี้เกิดปัญหาใหม่คือไม่รุว่าจะไปท้องที่ไหนดี  แถวเชียงใหม่-ลำพูนก้อมีอยู่หลายที่  แต่อยากได้ที่ที่ค่อนข้างเอาใจใส่ดูแลเราดูอ่ะ  แบบว่ากลัวเจ็บ  เป็นคนที่กลัวเข็มเป็นชีวิตจิตใจเลยอ่ะ  เท่าที่เคยอ่านและเคยดูกระบวนการคลอดหลาย ๆ แบบก้อนึกสภาพตัวเองไม่ออก  ถ้าใกล้ถึงเวลานั้นจะมานั่งคิดมากเพราะความกลัวไหม  เลยตัดสินใจว่าต้องหาที่ฝากท้องที่เราเชื่อใจได้ความกังวลเหล่านี้จะได้บรรเทาลงไป
     ทีนี้ถึงกระบวนการสืบค้นข้อมูลถึงถามจากคนที่เขามีประสบการณ์  ค้นจาก Internet  หาข้อมูลทุกทาง(แต่ไม่ขอบอกข้อมูลหรือชื่อคลิกนิกนะคะ เพราะแต่ละที่จะมีส่วนดีและส่วนเสียแตกต่างกันไป เดียวจะโดนฟ้อง!!!  อิอิ )  ที่นี้ตัดสินใจแน่ใจว่าเลือกที่คลอดที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ แต่โรงพยาบาลนี้จะบริการในสองส่วน คือส่วนของศรีพัฒน์ ซึ่งจะมีลักษณะเป็นเอกชน จะมี  Package คลอด
**อัตรานี้เริ่ม ตั่งแต่ 1 มกราคม 2553 เป็นต้นไป**

อัตรานี้ไม่รวม
1.มารดามีภาวะแทรกซ้อน เช่น มารดาตกเลือด ฯลฯ
2.ทารกมีภาวะผิดปกติหลังคลอด หรือมีหัตถการเพิ่มขึ้น
3.การผ่าตัดทำหมันและผ่าตัดไส้ติ่ง
4.มารดาต้องการพักฟื้น นอกเหนือจากที่กำหนด
**หมายเหตุ** เป็นอัตราค่าบริการคลอดสำหรับทารก 1 คน หากเป็นทารกแฝดคนที่ 2 หรือ 3 จะคิดตามค่าใช้จ่ายจริง
อัตรานี้รวม
1.ค่าอาหารและห้องพักพิเศษเดี่ยว
2.ค่าธรรมเนียมแพทย์
3.ชุด Amenity สำหรับมารดา 1 ชุด
4.ซีดีแรกรับประทับใจ
5.ใบก้าวแรกแห่งชีวิตของทารกแรกเกิด
6.ชุด Baby CMED สำหรับทารก 1 ชุด
•ดูแลการคลอดโดยอาจารย์สูติแพทย์ จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
•ดูแลและรับทารกคลอดทุกรายโดยอาจารย์กุมารแพทย์ ด้านทารกแรกเกิด จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
•โครงการสานสายใยสู่ลูกรัก โครงการอบรมคุณพ่อคุณแม่และญาติใกล้ชิด ในการเตรียมพร้อมเพื่อการคลอดคุณภาพ
•คลินิกนมแม่ บริการแนะนำแก้ไขปัญหาในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
•บริการให้คำปรึกษาปัญหาของมารดาและทารก ทางโทรศัพท์ (Hot Line) ตลอด 24 ชั่วโมง
•ห้องตรวจเด็ก 24 ชั่วโมง
•หากต้องการนอนพักที่ห้อง VIP หรือ ห้อง DELUXE จ่ายเพิ่มคืนละ 600,800 บาท
        ในช่วงระยะตั้งครรภ์ คุณแม่สามารถดูแลลูกน้อยในครรภ์ ด้วยการตรวจพิเศษ
เจาะเลือดตรวจคัดกรองกลุ่มอาการดาวน์(Down syndrome) ของทารกในครรภ์
ไตรมาสแรก อายุครรภ์ 9-14 สัปดาห์ ราคา 1,560 บาท
ไตรมาสที่ 2 อายุครรภ์ 14-20 สัปดาห์ ราคา 1,760 บาท
      การตรวจอัลตราซาวน์
อัลตราซาวน์ 2 มิติ ราคา 1,100 บาท
อัลตราซาวน์ 3,4 มิติ ราคา 2,000 บาท

      แต่ไม่สามารถใช้สวัสดิการเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ (บังเอิญว่าใช้สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลได้อ่ะ)  ส่วนในฝั่งสวนดอกจะเป็นในลักษณะของรัฐบาล  คือ  จ่ายตามจริง  จะใช้สวัสดิการเบิกจ่ายตรงได้
ที่นี้ก้อลงมติกัน  เรานะเลือกฝั่งศรีพัฒน์แต่แพ้โหวต  4 : 1  สุดท้ายเลยต้องเลือกฝั่งสวนดอก
      แต่ว่าในช่วงฝากท้องจะฝากพิเศษ  ถามที่ศรีพัฒน์ดูแล้วเขาไม่รับโอนไปคลอดที่สวนดอกอ่ะ (เซ็งเลย)  เลยเริ่มต้นไปฝากที่กุลพัฒน์คลินิก เพราะเขารับโอนไปคลอดที่สวนดอกได้  เขาคิดค่าหมอไปทำคลอดให้เป็นกรณีพิเศษ  5,000 บาท  ส่วนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ จ่ายตามจริง  ก้อถือว่าคุ้มอ่ะนะ คิดไปคิดก้อประหยัดดี  แทนที่จะเอาเงินไปจ่ายค่าคลอดหมดก้อเอาส่วนต่างเป็นทุนไว้ให้ลูกดีกว่าเพราะยังไงก้อหมอคนเดียวกัน (เริ่มงกแล้ว... แต่เพื่ออนาคตของลูกอ่ะ)  แต่ด้วยความที่ไปเริ่มตรวจที่ศรีพัฒน์แล้วไปต่อที่กุลพัฒน์ คุณหมอผู้น่ารักเลยให้มาตรวจครรภ์ที่ศรีพัฒน์ (อิอิ สบายไป)

วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

อาการเริ่มต้นที่บอกว่า "จะเป็นแม่คนแล้วนะ"

ไม่คาดคิดว่าจะมีโอกาสเป็นแม่คนได้เร็วขนาดนี้

      ช่วงแรก มีอาการง่วงอยู่ตลอดเวลา ง่วงแบบผิดปกติจากที่เคยเป็น ทั้งที่เป็นคนที่ไม่นอนกลางวัน ตอนเช้ากาแฟแก้วหนึ่งก้ออยู่ได้ทั้งวัน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเรา จากกาแฟหนึ่งแก้วในตอนเช้า เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแก้วในช่วงเที่ยง เหมือนจะดีขึ้นแต่ที่หนได้ล่ะ ดีได้แค่อาทิตย์มั้งก็กลับเข้ามาง่วงเหมือนเดิม ไม่รุทำไง... ทีนี้เพิ่มขึ้นเป็นแก้วที่สามในช่วงบ่าย เหมือนจะเอาอยู่นะ แต่มีฤทธิ์ได้แค่กาแฟหมดแก้ว ก็กลับมาง่วงเหมือนเดิม แปลกใจกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายตัวเองมาก ๆ และเริ่มสงสัยว่าเรากำลังจะเป็นโรคไรเนี้ยหรือเป็นเพราะอาหารลดความอ้วนที่กินอยู่ เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเนี้ย
     วันที่ 6 กันยายน 2552 ครบรอบที่ควรจะมีรอบเดือน แต่ก้อไม่มีวี่แวว แอบคิดลึก ๆ ว่าท้องป่าวเนี้ย แต่ก้องไม่ใช่มั้ง จะรวดเร็วทันใจขนาดนี้เลยเหรอ ปลอบใจตัวเองว่าคงเป้นเพราะเครียดผสมกับการเดินทางไกล  เพราะก่อนหน้านี้เดืนทางไปชุมพรแบบว่านั่งรถนานมากเป็นวันๆๆ ไม่น่าจะมีไรมาก คุยกะพี่ปอนด์เขาก้อว่าเราคิดมากไปเอง  ไม่มีไร อย่าคิดมาก
ก้อเลยตกลงใจว่า ... รอ ... รอ ...
     จนถึง วันที่ 9 กันยายน 2552 ทำใจรอไม่ไหวแล้ว ลดวามอ้วนก้อลด ถ้าเกิดท้องขึ้นมาจะยุ่งเดี๋ยวจะเป็นอันตราย เลยซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์มาตรวจดู จะตรวจช่วงอื่นก้อกลัวผลจะไม่แม่นยำ ตรวจตอนเช้าแน่นอนสุด  เช้าไม่ทำไรอ่ะขอเก็บฉี่ก่อนจะได้หายข้องใจซะที  จ๊ะเอ๋เลยค่ะ สองขีด โทรบอกพี่ปอนด์ยังไม่ค่อยเชื่ออีกนะ อ่ะไม่เป็นไร เดี๋ยวให้เพื่อนตรวจให้ก้อได้
      วันที่ 11 กันยายน 2552 ไปหาเพื่อนที่เป็นพยาบาลหนึ่งเดียวในกลุ่มตรวจให้อีกรอบ  ทีนี้ล่ะของจริงเลยล่ะ ท้อง !!! จริงไม่อิงนิยาย
      ขอบอกเลยนะว่า  สำหรับเราอาการแบบในละครทีวีไม่มีเลยสักอย่าง  ไม่มีอยากกินของเปรี้ยว ไม่มีเหม็นอาหาร ไม่มีเวียนหัวคลื่นเหียนอาเจียน  มีอย่างเดียวคือ   ง่วง!!!!! แบบไม่เกรงใจใคร  กิ้วๆๆ